เริ่มปีใหม่กับธุรกิจที่มั่นคงและยั่งยืนกับหุ้นกู้ CPF โดยลงทุนแมน

ลงทุนแมน x CPF
CPF เตรียมขายหุ้นกู้ 5 รุ่น เรทติ้ง A+ คาดว่าเสนอขายวันที่ 18-21 ม.ค. 64
เริ่มปีใหม่กับธุรกิจที่มั่นคงและยั่งยืน

.

ช่วงเริ่มต้นปีใหม่น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่นักลงทุนจะได้สำรวจพอร์ตการลงทุนของตนเอง

.

บางคนมีเงินออมหลายล้านบาท แต่เกือบทั้งหมดฝากไว้กับธนาคารในรูปแบบของเงินฝากประจำบ้าง ออมทรัพย์บ้าง เพราะชอบความชัวร์ กลัวความเสี่ยง จึงเลี่ยงที่จะนำเงินไปลงทุนในตราสารอย่างอื่น

.

บางคนที่อยากได้ผลตอบแทนสูงๆ เมื่อเปิดพอร์ตออกมาก็อาจเจอแต่สินทรัพย์เสี่ยง อย่างหุ้น กองทุนรวมหุ้น รวมถึงตราสารหนี้ที่ให้ดอกเบี้ยสูงๆ แต่อันดับความน่าเชื่อถือ (เครดิต เรทติ้ง) ต่ำ หรือไม่ได้จัดเรทติ้ง

.

การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากเกินไป อาจทำให้เกิดความเครียดจากความผันผวนหรือการเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจได้ง่าย

.

ในขณะที่ถ้าเรามีพอร์ตลงทุนแบบอนุรักษ์นิยมจนเกินไป ก็ทำให้เสียโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่ “มากกว่า” จากความเสี่ยงที่แม้จะเพิ่มขึ้นแต่ยังอยู่ในระดับที่เราพอรับได้

.

หนึ่งในทางเลือกของการลงทุนที่อยู่ระหว่างกลางคือ การมีตราสารหนี้ เช่น หุ้นกู้ของบริษัทที่มั่นคงที่เติบโตอย่างยั่งยืนในพอร์ตและยังได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากทั่วไป

การเริ่มต้นการลงทุนในปีใหม่ด้วยหุ้นกู้ของบริษัทที่มีชื่อเสียง และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ A+ จากทริสเรทติ้ง น่าจะเป็นการเริ่มต้นการลงทุนที่ดีสำหรับปี 2564 โดยหุ้นกู้ที่น่าสนใจก็คือ หุ้นกู้ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ที่มีแผนจะเสนอขายในวันที่ 18 – 21 มกราคม 2564

.

หู้นกู้ CPF ที่เสนอขายในครั้งนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 5 ชุด ทั้งที่ขายให้กับผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบันและ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่

โดยหุ้นกู้ฯ ชุดที่เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป มี 4 รุ่น คือ

หุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.99% ต่อปี

หุ้นกู้อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.15% ต่อปี

หุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.60% ต่อปี

และหุ้นกู้อายุ 12 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.80% ต่อปี

สำหรับหุ้นกู้ฯ ชุดที่เสนอขายให้กับผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ได้แก่ หุ้นกู้อายุ 2 ปี

.

สำหรับอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้อายุ 2 ปีจะกำหนดอีกครั้งในช่วงต้นเดือนมกราคม 2564 โดยหุ้นกู้ทั้งหมดชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน

.

ธุรกิจของ CPF ครอบคลุม 17 ประเทศทั่วโลก ทั้งธุรกิจสัตว์บกและสัตว์น้ำ ไม่ว่าจะเป็น สุกร ไก่เนื้อ ไก่ไข่ เป็ด กุ้ง และปลา สามารถจำแนกประเภทธุรกิจหลักได้เป็น ธุรกิจอาหารสัตว์ (Feed) ธุรกิจผลผลิตจากการเลี้ยงสัตว์และแปรรูปเนื้อสัตว์ (Farm and Processing) และ ธุรกิจอาหาร (Food) โดยได้ส่งออกผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ เนื้อสัตว์แปรรูป และอาหารพร้อมรับประทานไปขายในต่างประเทศมากกว่า 30 ประเทศ ครอบคลุม 5 ทวีปทั่วโลก ซึ่งแต่ละประเทศที่ CPF เข้าไปลงทุน ล้วนเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูง และมีโอกาสเติบโตในอนาคตทั้งสิ้น

.

ทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ฯ ของ CPF ที่ A+ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 สะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและการเป็นผู้นำด้านเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารที่ครบวงจรของโลก รวมถึงการมีสินค้าและตลาดที่หลากหลาย อีกทั้งมีความมั่นคงทางการเงิน

.

บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งทางด้านฐานะการเงิน โดยผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 439,745 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากราคาสุกรในภูมิภาคเอเชียปรับตัวสูงขึ้นจากภาวะขาดแคลนสุกรเนื่องจากการระบาดของโรค ASF และมีกำไรสุทธิ 19,614 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14,445 ล้านบาท

.

สำหรับผลการดำเนินงานของซีพีเอฟในปี 2564 นั้น บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานยังคงดีอย่างต่อเนื่อง จากปีนี้จากการลงทุนในธุรกิจสุกรในประเทศจีนและแคนาดาที่มีแนวโน้มเติบโต และประเทศเวียดนามที่มีการลงทุนในธุรกิจไก่ครบวงจรเพื่อส่งออกซึ่งจะเริ่มดำเนินการในปีหน้า รวมทั้งการลงทุนด้านนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต อันจะส่งผลให้บริษัทมีความสามารถในการแข่งขันที่ดีขึ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำลง จึงมั่นใจว่าผลการดำเนินงานจะยังดีต่อเนื่องและฐานะการเงินแข็งแกร่งขึ้น

.

นอกจากนี้ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 บริษัทฯ ยังสามารถบริหารจัดการธุรกิจท่ามกลางวิกฤตได้อย่างโดดเด่น เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและก่อเกิดความสำเร็จที่สำคัญ พร้อมๆ ไปกับการช่วยเหลือสังคมเห็นได้อย่างชัดเจนจากโครงการส่งอาหารจากใจร่วมต้านภัยโควิด-19 รวมถึงสามารถป้องกันโควิด-19 ในกลุ่มพนักงานและบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้สายพานการผลิตของบริษัทฯ เดินต่อได้โดยไม่สะดุด ไม่ก่อให้เกิดปัญหาการขาดแคลนอาหาร ขณะเดียวกัน ซีพีเอฟยังร่วมฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการขนาดย่อม หรือ SMEs รวม 6,000 ราย ผ่านโครงการ F.T.I. Faster Payment ด้วยการปรับลดระยะเวลาเครดิตเทอมลงเหลือไม่เกิน 30 วัน เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการรายย่อย และยังให้ความร่วมมือกับภาครัฐจ้างงานแรงงานจบใหม่เพิ่มอีกถึง 8,000 อัตรา เพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าอย่างไม่สะดุด ก้าวข้ามวิกฤติโควิด-19 ได้อย่างมั่นคง และเพื่อสร้างรากฐานอันแข็งแกร่งต่อระบบเศรษฐกิจ

.

สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ (CPF) สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณ 100,000 บาท โดยคาดว่าจะเสนอขายในวันที่ 18 – 21 มกราคม 2564 และสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านสถาบันการเงินซึ่งเป็นผู้จัดการการจำหน่ายดังนี้

สำหรับหุ้นกู้ที่เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ติดต่อ

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร.02-111-1111

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร.02-888-8888 กด 819

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร.02-777-6784

ธนาคารออมสิน โทร.02-299-9245 (เปิดจองซื้อเฉพาะนักลงทุนรายใหญ่และที่สำนักงานใหญ่เท่านั้น)

ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร.02-626-7777

ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 1558 กด#9

บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ผ่าน ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02 165 5555

สำหรับหุ้นกู้ที่เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ติดต่อ

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร.02-111-1111

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร.02-888-8888 กด 819

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร.02-777-6784

ธนาคารออมสิน โทร.02-299-9245 (เปิดจองซื้อที่สำนักงานใหญ่เท่านั้น)

.

คำเตือน

1. โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน

2. ตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทยมีสภาพคล่องต่ำ การขายตราสารในตลาดรองนั้นอาจได้รับมูลค่าขายตราสารลดลง หรือเพิ่มขึ้นได้ โดยขึ้นอยู่กับสภาวะและความต้องการของตลาดในขณะนั้น

3. อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้เป็นเพียงข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น มิใช่สิ่งชี้นำการซื้อขายตราสารหนี้ที่เสนอขาย และไม่ได้เป็นการรับประกันความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร และเมื่อผู้ออกหุ้นกู้หยุดจ่ายดอกเบี้ย (กรณีบริษัทไม่ได้แจ้งเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้) หรือเงินต้น ก็เป็นการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ (default) ซึ่งหากผู้ออกหุ้นกู้ประกาศล้มละลายหรือผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ผู้ถือหุ้นกู้ และเจ้าหนี้อื่นของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะมีบุริมสิทธิเหนือผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ ในการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้ ผู้ลงทุนสามารถดูผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ (credit rating) ที่จัดทำโดยสถาบันจัดอันดับความเสี่ยง ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ ถ้า credit rating ของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ต่ำ แสดงว่าความเสี่ยงด้านเครดิตของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้สูง ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับควรจะสูงด้วยเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่สูงของหุ้นกู้ดังกล่าว

4. บริษัทอยู่ระหว่างยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนกับ ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ และการจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน

.